News

วันที่ 24 มิถุนายน 2568 –

ในโลกที่ AI ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง คุณเคยสงสัยไหมว่าอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จและทิศทางในอนาคตของเทคโนโลยีนี้? วิดีโอ “AMD Advancing AI Keynote” ได้เผยคำตอบที่น่าสนใจ พร้อมชี้ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ AMD ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม AI ด้วยหลักการสำคัญสองประการ นั่นคือ “ความไว้วางใจ” และ “ระบบนิเวศแบบเปิด”

ทำไม “ความไว้วางใจ” ถึงสำคัญต่อ AI?

AMD เชื่อมั่นว่าความไว้วางใจคือรากฐานของการสร้างสรรค์และนวัตกรรม AI ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขความท้าทายที่ซับซ้อนของโลกใบนี้ การสร้างความไว้วางใจนี้จะเกิดขึ้นได้จากการร่วมมือกันอย่างจริงจังเท่านั้น

AMD ผู้นำที่มองการณ์ไกลในโลก AI

AMD ไม่ได้แค่พูดถึง AI แต่ได้ลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม พวกเขาได้วางโร้ดแมปที่ชัดเจน ส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามกำหนด และสร้างพอร์ตโฟลิโอ AI ที่ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือ FPGA ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI

ลองนึกภาพสิว่า เทคโนโลยีของ AMD อยู่รอบตัวเรามากกว่าที่คุณคิด! ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Microsoft Office 365, Facebook, Zoom, Netflix หรือแม้แต่ Uber สิ่งเหล่านี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของ AMD ที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้คนนับพันล้านเป็นไปอย่างราบรื่น

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัท AI และคลาวด์ยักษ์ใหญ่ต่างก็เลือกใช้ Instinct ของ AMD เพื่อขับเคลื่อนโมเดล AI ล่าสุดและรองรับปริมาณงานการผลิตที่สำคัญ ตัวอย่างเช่น บริษัทวิทยาศาสตร์ชีวภาพ 310 AI ที่ใช้ MI300X ของ AMD เพื่อเร่งการค้นพบยา หรือแม้แต่การใช้ Versal AI adaptive SOCs ในการสร้างเครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น นี่คือข้อพิสูจน์ถึงขีดความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยี AMD

AI: จาก ChatGPT สู่ยุคที่ก้าวข้ามดาต้าเซ็นเตอร์

นับตั้งแต่ ChatGPT ได้สร้างปรากฏการณ์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นวัตกรรม AI ก็ก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดด และคาดการณ์ว่าการฝึกอบรม AI จะเติบโตกว่า 80% ต่อปีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยมี GPU ประสิทธิภาพสูงของ AMD เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดนี้ สิ่งที่น่าจับตาคือ AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในดาต้าเซ็นเตอร์อีกต่อไป แต่กำลังขยายขอบเขตไปสู่ทุกที่!

พลังของ “ระบบนิเวศแบบเปิด”: กุญแจสู่นวัตกรรมที่แท้จริง

แม้ว่านวัตกรรมบางอย่างจะเริ่มต้นจากระบบปิด แต่ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า นวัตกรรมที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อระบบเปิดกว้าง ลองดูตัวอย่างอย่าง Linux ที่แซงหน้า Unix ได้เมื่อมีการปลดล็อกการทำงานร่วมกันทั่วโลก หรือแพลตฟอร์ม Android แบบเปิดที่ขยายการประมวลผลบนมือถือไปสู่ผู้ใช้นับพันล้าน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “ความเปิดกว้าง” นำมาซึ่งการแข่งขันที่มากขึ้น นวัตกรรมที่เร็วขึ้น และท้ายที่สุดคือผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

ผลิตภัณฑ์และแผนในอนาคตของ AMD: ก้าวล้ำนำเทรนด์ AI

AMD ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายความเป็นผู้นำในด้าน Gen AI ด้วย MI300X และ MI325 และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พวกเขามีลูกค้า Instinct รายใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Open AI, Meta, XAI และ Tesla ซึ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่ผู้เล่นรายใหญ่มีต่อ AMD

และนี่คือข่าวดี! AMD ได้เปิดตัวซีรีส์ MI350 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ล้ำหน้าที่สุด มอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นสำหรับโมเดล AI ที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น MI355 หรือ MI350 ก็พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ

เท่านั้นยังไม่พอ! AMD ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแผนการสำหรับ MI400 ในปี 2026 ซึ่งออกแบบมาเป็นโซลูชันระดับแร็ค และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากำลังพัฒนาระบบแร็คปี 2027 ที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความสามารถในการปรับขนาด ด้วย Verono CPU และ MI500 GPU เจเนอเรชันถัดไป

อนาคตของ AI เกิดจากการทำงานร่วมกันแบบเปิด

Sam Altman จาก OpenAI ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันขีดจำกัดของ AI สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ตรงกันของ AMD นั่นคือ อนาคตของ AI จะไม่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเดียว หรือในระบบนิเวศแบบปิด แต่จะถูกกำหนดโดยความร่วมมือแบบเปิดกว้างทั่วทั้งอุตสาหกรรม

โดยสรุปแล้ว AMD ไม่เพียงแค่เป็นผู้เล่นสำคัญในภูมิทัศน์ของ AI ที่กำลังเปลี่ยนแปลง แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการทำงานร่วมกันแบบเปิดและผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง เพื่อนำพาเราไปสู่อนาคตของ AI ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น!

AMD Instinct คือชื่อ Series ของ AMD Chip ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับการเทรน AI โดยเฉพาะ ซึ่ง AMD Instinct มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ MI250X, MI300A, MI300X, MI325X และตัว CPU ล่าสุดที่ออกอย่างสดๆร้อนๆในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘MI350s Series’ ที่มีกำลังประมวลในการเทรน AI โดยเฉลี่ยได้ดีกว่ารุ่นเดิม MI300X ถึง 3 เท่า (เทรนบน Llama 3.1 405B)

 

         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ณ ปี 2023 มูลค่าของตลาด AI อยู่ที่ 45,000 ล้านเหรียญและ AMD เคยคาดไว้ว่า ตลาด AI นั้นจะโตปีละ 60% (CAGR) และจะมีมูลค่าถึง 5 แสนล้านเหรียญในปี 2028 แต่จากการพัฒนาและนำไปใช้ของ AI ในปี 2024 ที่ผ่านมา AMD คาดว่าต่อจากนี้จะมีอัตราโตมากขึ้นถึง 80% ต่อปีและอาจจะมีมูลค่าถึง 5 แสนล้านเหรียญก่อนปี 2028 มาถึงอย่างแน่นอน โดยทาง AMD เชื่อว่า AI Inference คือปัจจัยที่จะทำให้อัตราเติบโตนี้เร็วขึ้นไปอีก

‘AI Inference คืออะไร

AI Inference คือ การนำ AI ที่ผ่านการเทรนมาแล้วมาใช้ในการใช้ในการตัดสินใจ คาดคะแนในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ในสิ่งที่ AI ไม่เคยเจอมาก่อน โดยส่วนใหญ่แล้ว AI Inference จะถูกนำไปใช้ในการทำ chat bot, recommendation engines, และ self-driving car

‘

AMD ยังเชื่อว่าต่อจากนี้ AI กลายเป็นส่วนนึงของทุกอุปกรณ์และการใช้ชีวิตของทุกๆอย่างไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องใช้ผ่าน cloud หรืออยู่แต่เพียงใน Data Center อีกต่อไป AI จะมีติดอยู่ในโทรศัพท์ จะมีติดอยู่ในแล็บท็อป จะมีติดอยู่ในอุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อให้การคำนวนเป็นไปได้อย่างดีขึ้นและสามารถเอื้อหนุนการใช้ชีวิตหรือทำงานได้ดีขึ้นไปอีก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Spec	Value
Architecture	4th-gen CDNA 4, Chiplet (3 nm + 6 nm)
Compute Units	256 CUs (8 × 32)
Transistors	~185 billion
Memory	288 GB HBM3E
Memory Bandwidth	8 TB/s
FP64 Compute	~72 TFLOPS
FP16/BF16	~4.6–5.0 PFLOPS
FP8/INT8	~9–10 PFLOPS
FP6/FP4 (Sparse-enabled)	~20 PFLOPS
Multi‑GPU Platform (8 GPUs)	2.3 TB memory, 64 TB/s, 628 TFLOPS+
Power	Air: 1000 W / Liquid: 1400 W
Software	ROCm 7, Kubernetes GPU, frameworks

 

 

 

Reference: https://www.amd.com/en/products/accelerators/instinct/mi350/mi350x.html